วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[พาเที่ยว] มาอัมพวา ..มา.. "รีสอร์ท บ้าน ณ บางช้าง"

เวลาที่ "ตะลอน" ไปกลับ กรุงเทพ-ภูเก็ต หากมีโอกาส มีเวลา ผมชอบที่จะแวะเข้าไปที่อัมพวาอยู่เรื่อยๆ เพราะเหมือนจะบอกได้ว่า มันเป็นแหล่งรวมหลายๆ อย่าง ไว้ด้วยกัน ทั้งบรรยากาศ ธรรรมชาติที่สงบ อาหารอร่อยๆ ราคาไม่แพง วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย รวมถึง ตลาดน้ำอัมพวาที่สุดแสนจะคึกคัก

รอบนี้ หลังจากที่ไปสรุปงานกับลูกค้าที่กรุงเทพฯ เสร็จแล้ว ก็เลยถือโอกาสมาชาร์จพลังงานให้ชีวิต ที่อัมพวา กันซักนิดครับ


รอบนี้ เรามาทดลองพักกันที่ "รีสอร์ท บ้าน ณ บางช้าง" กันครับ ต้องให้เครดิตคุณภรรยาที่แนะนำมา เพราะว่า คุณเธอเข้าไปเจอข้อมูลมาจาก Internet ว่าน่าสนใจดี


หลังจากที่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดู (ในฐานะที่ต้องจ่ายเงิน และ ด้วยความงก อย่างเหนียวแน่น เน้นถูก) ก็เลยลองค้นหาดูว่า มันดีจริงหรือเปล่า ไปแล้ว จะเสียอารมณ์ไหม ภาพรวมของ Review ถือว่าดีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Facebook ของทาง รีสอร์ท เอง มีลูกค้าไปเขียนขอบคุณกันมากมาย สำหรับผมแล้ว สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ท่ามกลาง Review เหล่านั้น คงจะเป็น "คุณลุง คุณป้า" เจ้าของรีสอร์ท "บ้าน ณ บางช้าง" นี่ละครับ เพราะคนจะพูดถึงเหมือนจะมากกว่าที่พักซะอีก


เมื่อแน่นอนว่า เอาละ เลือกที่นี่ละ ผมก็เลยยกหูไปที่หมายเลข 081-3037316 เบอร์คุณป้าทิพย์ ครับ "สวัสดีครับ จะรบกวนสอบถามห้องพักวันอาทิตย์นี้หน่อยครับ" เสียงตามสายตอบกลับมาว่า "ออ มีคะ จะเหมาหมดเลยทีเดียวหรือเปล่าคะ !!!! จะได้ปิดห้องไว้ให้เลย"

คือแบบ "เฮ้ย !!! " นี่มันไม่ธรรมดานะนี่นะ ... เริ่มไม่สงสัยแล้วละ ว่าทำไม คนถึงติดคุณป้าแกนัก แกกวนได้ใจนะนี่นะ ^_^ สรุป ผมได้บ้านหลังนี้ครับ ห้องพักที่นี่ปลูกเป็นลักษณะบ้านเป็นหลังๆ ครับ แล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหน มีทั้งแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านทะลุถึงกันได้ แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก แต่ที่สำคัญคือ ราคาเดียวกันหมดครับ ผมไปวันอาทิตย์ คนพักนอกจากเราแล้ว ก็มีคนพักอีกห้องหนึ่งเท่านั้น แกเลยให้เราเลือกเอาเลย จะเอาเรือนหลังไหนก็ได้ ตามที่เราชอบใจ


แกบอกว่า เวลาไปตลาดน้ำ อย่าเอารถไปนะ ให้เดินมาบอกแก เดี๋ยวแกพาไป ตรงนู้นหาที่จอดรถยาก แถมต้องไปจ่ายตง จ่ายตังค์อีก เดี๋ยวแกไปส่ง แล้วจะกลับตอนไหนก็โทรมาบอกนะ เดี๋ยวจะไปรับ เดี๋ยวเรานัดกัน ว่าไปเจอกันตรงไหน

ผมว่า ผมคิดไม่ผิดแล้วละครับ ที่มีโอกาสมาพักที่นี่ มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเข้ามาพักผ่อนอย่างเดียว แต่การได้รู้จักคุณป้าแก ผมบอกได้เต็มปากว่า "แก ไม่ธรรมดา" จริงๆ ครับ

เพราะถ้าเราดูทำเลแล้ว ที่พักที่นี่ ห่างออกไปจากตลาดน้ำประมาณ 1.8 กม. ซึ่งถือว่า หากเดินก็พอเหนื่อยเหมือนกันครับ แต่หากจะขับรถกันไป ก็ต้องไปเสียค่าจอดอีกซึ่งราคาเฉลี่ยที่ 40 บาท ซึ่งหากเรามองจุดนี้ มันกลายเป็นข้อด้อยสำหรับการมาพักที่ "บ้าน ณ บางช้าง" แต่การบริการแบบไม่คิดมูลค่าแบบนี้ กลายเป็นทั้ง "จุดขาย" และเป็น "น้ำใจ" ของที่พักไปแทนครับ

ณ จุดนี้ คุณมีเจ้าของโรงแรม ขับรถพาไปตลาดน้ำ และจะไปรับกลับ เมื่อคุณเที่ยวเต็มที่แล้ว

ถือว่า จบช่องโหว่ของที่พักได้สมบูรณ์แบบที่สุดครับ นอกจากนั้นหากตอนกลางวันคุณอยากจะออกไปเที่ยวที่ไหนแบบตระเวนไปละก็ คุณป้า มีมอเตอร์ไซค์ให้ยืมใช้ แบบไม่ต้องมาพูดเรื่องค่าเช่ากัน


บรรยากาศภายในห้องพัก ถือว่า ok ครับ จัดบรรยากาศในห้องพักได้ดีระดับหนึ่ง เน้นผ่อนคลาย มากกว่า หรูหรา อลังการ

แนวคิดของที่นี่ จะเป็นแนวที่ให้คุณรู้สึกเหมือนคุณมา "เยี่ยมญาติ" มากกว่าที่จะบอกว่า คุณมาพัก "โรงแรมหรู อยู่อย่างวังเวง" ครับ เขาเก็บรายละเอียดแบบตีโจทย์ปรับข้อด้อย ให้กลายเป็นข้อเด่น ได้ทั้งหมดครับ มีหลายแนวคิดที่น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อครับ

ถ้ามองในเชิงบริหารแล้ว ผมว่า "บ้าน ณ บางช้าง" ทำให้คุณติด "คน" ได้มากกว่าติด "แบรนด์"

การติด "คน" นั้น ทำให้ปัญหา ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายไปหมด แต่ก็เป็นเรื่องยาก แบบที่ใช่ใครก็จะทำได้ครับ คิดง่ายๆ หากคุณเจอว่า อันนั้นเสีย อันนี้ไม่มี ในห้องพักราคาเดียวกัน คุณคงต้องโวยวาย โวกเวก กันพอสมควร และดีไม่ดี คุณจะบอกว่า "แมร่ง ทำงานชุ่ยมาก !! " แต่เมื่อติด "คน" แล้ว หากไม่มีอะไรเสียหายมากไป เราจะรู้สึกว่า "ช่างเหอะ นิดๆ หน่อยๆ จะเอาอะไรมาก"

เรื่องเดียวกัน กับความรู้สึกที่ต่างกัน ....


หลังจากที่เข้าห้องพักได้ไม่นาน ก็เจอพายุฝนครับ ก็เลยได้นั่งชิวๆ ดูสายฝนกระทบใบไม้

จริงๆ แล้ว ผมมาถึงที่พักเอาเกือบบ่ายสามแล้วครับ เพราะช่วงเช้า ไปเตร็ดเตร่ แหวกว่ายกับกองหนังสือ มากมายในงานหนังสือแห่งชาติ พอตกตอนเที่ยงนิดๆ คุณป้าทิพย์ ก็โทรมาหาผมครับ
"ฮัลโหล ... คุณฐิติใช่ไหมค๊า.า. นี่ป้าทิพย์นะ ถึงไหนกันแล้วจ๊ะ"

เอาจริงๆ เลยนะ ผมก็ยังสงสัยว่า "ป้าทิพย์ ไหนวะ !! " เลยถามว่า
"เอ่อ .. โทษนะครับ ป้าทิพย์ จากที่ไหนครับเนี๊ยะ"

แกเลยบอกว่า "ออ จาก บ้าน ณ บางช้าง อัมพวา ค่าา.. จะโทรมาถามว่า ลืมนัดป้าหรือเปล่า เห็นยังไม่มาเลย ตกลงสะดวกเข้ามาไหมคะ ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรนะ บอกป้าได้"

นั่นงะ ... นี่ดูหนังสือนานไปนะ


เลยรีบบอกว่า "ไปครับป้า ไปแน่นอน พอดีไปซื้อของนิดหน่อยครับ ตอนนี้กำลังจะออกจากกรุงเทพฯ แล้ว" แกบอกว่า "ok เดี๋ยวถ้าถึงสวน ร.2 โทรหาป้านะ ป้าจะบอกเส้นทางให้" เลยบอกแกว่า ไม่เป็นไร เพราะเราตั้ง GPS ตรงไปหาแกเรียบร้อยแล้ว


อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ พอมาถึงแล้ว คุณป้าก็พาดูห้อง ให้เราเลือก ซึ่งจากเลือกห้องแล้ว เราก็เลยถามเรื่อง Check in และจะจ่ายค่าห้องพักกันครับ

คุณป้าบอกว่า "ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องพิธีอะไรมาก ไปเที่ยวให้เสร็จ ไปกินให้เสร็จ นอนให้เต็มตื่น จะกลับตอนไหน ค่อยมาจ่าย"

เราก็บอกว่า พรุ่งนี้ เราต้องออกเช้านะ เดี๋ยวจะไม่สะดวก หากต้องมาเคลียร์เงินกันตั้งแต่ตี 5 - ตี 6 จ่ายซะก่อนเถอะ แกบอกว่า "ไม่ต้องกลัวไม่ได้จ่ายนะ รับรอง หากไม่จ่าย ป้าไม่ให้ไปจากที่นี่แน่ !!! "

ยอมรับว่า แกกวนได้ใจ จริงๆ ครับ คือไม่ใช่แค่กวน แต่ "ได้ใจ" ลูกค้าเต็มๆ เพราะปกติ ที่พัก จะต้องให้เราชำระเงินก่อนครับ จะได้ชัวร์ๆ ว่า เขาจ่ายแน่นอนนะ แต่ที่นี่ แกทำแนวเหมือนเพื่อนกัน ญาติกัน เรื่องเงินมาทีหลัง เรื่องพักผ่อนต้องมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่ไม่ต้องจ่ายนะ "จ่าย" เหมือนกัน

พูดง่ายๆ เงินเข้ากระเป๋าเหมือนกัน แต่ความรู้สึกต่างกัน


สรุป ก็ต้องว่าตามที่ป้าบอกครับ คือ จะ Check out ค่อยมาจัดการค่าห้องพัก แล้วแกก็ถามเวลาเราว่า จะกลับกันตอนไหน แกจะเตรียมข้าวไว้ให้

แต่ว่าเป็นเช้าวันจันทร์ เดี๋ยวแกซื้อข้าวมันไก่มาให้นะ เพราะที่นี่ ร้านรวงไม่ค่อยเปิดกันเท่าไหร่ในวันธรรมดา ทานเป็นข้าวมันไก่นะ

เอาละซิ เราบอกว่า ข้าวไม่เป็นไรครับ เพราะเราจะออกกันตั้งแต่เช้า ช้าสุด ไม่เกิน 07:00 เพราะไม่งั้นกว่าจะถึงภูเก็ตมันจะดึกมากไป


แกบอกว่า ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่กินไม่ได้นะ คุณลุงก็เดินออกมาประกบว่า "กินหน่อยเถอะครับ เดี๋ยวเราจะกำไรมากเกินไป คุณจะเดินทางกันตอน 7 โมงเช้า งั้นเดี๋ยวตี 6 กว่าๆ ผมออกไปซื้อให้เลยแล้วกันครับ จะได้ทานอะไรกันก่อนเดินทาง"

มามุกนี้กันเลยทีเดียว เราก็พยามบอกว่า อย่าเลย พักผ่อนกันเถอะครับ เพราะเราเองก็ค่อยไปกินระหว่างทางเอาก็ได้ แต่สรุป ก็ต้องยอมแกอยู่ดี เอาก็เอา จัดมา...


ทำไป ทำมา คืนนั้น หลังจากที่นั่งทานอะไรกันเสร็จแล้ว เราก็สรุปกันว่า พรุ่งนี้ เราขยับเดินทางกันซัก 08:00 ละกัน พักผ่อนกันให้เต็มที่ แล้วก็ไม่ต้องรบกวนเขาเช้ามากนัก

ก็เลยเดินไปบอกแกว่า เลื่อนเดินทางเป็น 08:00 แล้วกันครับ พรุ่งนี้ป้าได้ไม่ต้องรีบร้อนไปเตรียมของ เราเองก็ได้พักผ่อนกันให้เต็มที่ก่อนออกเดินทาง


มีคำพูดที่ว่า "เมื่อคุณทำงานที่คุณรัก คุณจะไม่ต้องคิดอะไรอีกทั้งชีวิต" เพราะ เมื่อทำงานกับสิ่งที่เรารักแล้ว เราจะทำมัน โดยไม่ต้องรอให้ใครสั่ง หรือยึดถือกฏเกณฑ์ให้มากเรื่อง นับว่า "บ้าน ณ บางช้าง" ทำให้เห็นถึงคำตอบนี้ได้อย่างชัดเจนครับ


ถ้านี่คือ "งาน" จะเป็นการให้บริการกับ "ลูกค้า" แต่หากนี่เป็นสิ่งที่รักที่จะทำ มันจะกลายเป็นการให้บริการกับ "เพื่อนๆ" หรือ "ลูกๆ หลานๆ"

สองอย่างนี้ แตกต่างกันในเรื่อง ความ "ตึง" ที่มีต่อกัน ระเบียบ แบบแผน ขั้นตอน ไม่จำเป็นต้องมี เมื่อมี "ใจ" ที่จะให้บริการ

ลูกค้าก็สบายใจ คนให้บริการ ก็มีความสุข


ช่วงกลางคืน ผมเดินออกไปหยิบของในรถ คุณป้า ก็มีตะโกนบอกว่า "นอนตามสบายนะ ไม่ต้องกังวลเรื่องรถ ป้านอนตรงนี้ เดี๋ยวดูให้ ประตูปิดไว้เรียบร้อย ไม่ต้องห่วง" ก็เลยถือโอกาสยืนสนทนากับแกนิดหน่อย

มีข้อความหลายช่วงหลายตอนที่น่าสนใจครับ เช่น

"แกก็แต่งตัวของแกแบบนี้ละ ยิ่งลุงยิ่งพอกัน ใครไม่รู้ เขาก็นึกว่าคนสวน บ่อยๆ พวกวัยรุ่นไม่รู้ว่าแกอะ เป็นเจ้าของ เขาก็นึกว่าเป็นคนสวน เลยทำท่าทำทาง เหมือนอะไรอะ เอาคนสวนมาขับรถให้ฉันนั่ง พอมารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของก็ทำหน้าจ๋อยๆ ท่าที เปลี่ยนไป

แกว่า แต่แกก็ไม่ได้ถืออะไรหรอก เราก็ทำงานของเราไป ใครจะมองยังไงก็ช่าง เขากลับไป เขามีความสุขก็พอแล้ว"


"เนื้อที่นี่อะ จริงๆ ยังปลูกห้องได้อีกเยอะนะ แต่ไม่เอาแล้วละ ถึงมันได้เงินเยอะ แต่ก็ไม่คุ้มกับคนที่เขามาพักกับเรา เขาจะมาพักผ่อน เขาอยากได้อะไรที่มันสบายๆ ไม่ใช่มองแล้วอึดอัด แค่นี้ก็พอแล้ว เขาก็มีความสุข เราก็มีความสุข"


อาจจะถือเป็นบทความแรกที่เขียนเรื่องยาวมาก และมีภาพเยอะมากด้วย แต่อันนี้ ขอการันตีนะครับ ว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ กับทางที่พักครับ Blog ผมเขียนด้วยความพึงพอใจ ไม่รับจ้างเขียนครับ อะไรเจ๋ง อะไรดี ก็เอามาแนะนำกัน อันไหนแย่ ก็ไม่เอามาเขียนครับ ผมไม่ได้เขียน Blog เป็นอาชีพ อีกอย่าง ถ้าถูกจ้างเขียน มันเขียนไม่มันส์ ^_^

ช่วงเช้าๆ คุณป้าจะเอานกหลากหลายแบบมาปล่อยไว้ตรงมุมทานกาแฟครับ ให้ลูกค้าได้ชมกันแบบใกล้ชิดติดตัวกันเลยทีเดียว


ถ้าสังเกต จะพบว่า เป็นนกฝั่งตระกูล "นกแก้ว" เยอะครับ คุณป้าบอกว่า แรกเริ่ม ลูกคุณป้าเอามาเลี้ยง พอเลี้ยงไปเลี้ยงมา มันเอามาเพิ่มทีละตัวสองตัว


นกพวกนี้ เชื่อง และคุ้นคนมากครับ ไม่มีอาการตื่นคนเลย เราเข้าไปใกล้ๆ ได้ครับ แต่ระวังนกตัวโตๆ ไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะถึงเขาไม่ทำอันตรายใคร แต่นกพวกนี้ กรงเล็บจะคมมาก



นกหงส์หยก ก็มีนะครับ



ช่วงเช้า ก่อนทานอาหาร คุณป้าก็ให้เราชงกาแฟดื่มกันตามสบายครับ และมีขนมปังกรอบเนยกระเทียมมาเสริฟด้วย


ซึ่งนอกจากเสริฟเราแล้ว เจ้านกพวกนี้ ก็ทานด้วยเหมือนกันครับ ซึ่งก็ถือเป็นครั้งแรกเลย ที่ได้เห็นนกทานอะไรแบบนี้ น่ารักจัง ^_^


ไม่ต้องสงสัยแล้วละ ว่าทำไม ลูกค้าประจำที่นี่เยอะนัก
จริงๆ แล้ว แค่ได้คุย ได้รู้จักกับคุณป้า คุณลุง ที่ "รีสอร์ท บ้าน ณ บางช้าง" ผมว่า เรื่องที่พัก กลายเป็นของแถมแล้วละครับ

ใครอยากรู้ว่า ทำไมผมถึงประทับใจนัก ลองไปเจอ ลองไปโดน ตามแผนที่ด้านล่างเลยครับ


1 ความคิดเห็น:

  1. ไปพักมาแล้วต้นเดือนธันวา62
    ป้ากับลุงเปนกันเองครับเปนญาติพี่น้อง​ ไปถึงอัมพวาตอนสองทุ่มไปศุกเยน​ไปรถตุ้ที่สายใต้ใหม่
    ถึงอัมพวาท่ารถ​ โทไปหาป้ามารับเลย
    ห้องพักดีครับ​สมราคา​เลยสั่วกุ้งเผาที่บ้านป้า1โลเผาให้เสรจเลย​ ให้ไปเที่ยวก่อนที่ตลาดน้ำก้อนเข้ามากินกุ้วเผา​ ตอนเช้ามีข้าวหมุแดงกับขนมหวานให้ทานด้วย​ จ่ายเวินตอนขากลับได้เลยไม่ต้องห่วงบริการดีมาก

    ตอบลบ