วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[Food Review] อร่อยฉีกกฏ กับ "กุ้งถัง ภูเก็ต"

ตอนแรก ก็คิดแล้วคิดอีกว่า เอ .... ถ้าเราไปนั่งกินร้านของลูกค้าเรา แล้วเราเอามา Review มันจะทำให้ผู้อ่านเชื่อเราหรือเปล่าน๊า แล้วเราจะกลายเป็น Blog รับจ้างไปหรือเปล่า

แต่มาคิดอีกที เออ ถ้าลูกค้าเราไม่อร่อยจริง ไม่เจ๋งจริง เขาคงไม่ซื้อโปรแกรมห้องอาหารจากเราไปใช้แล้วละ แล้วตอนที่มาติดตั้งโปรแกรมที่ "กุ้งถัง ภูเก็ต" กลิ่นมันก็ยั่วใจเหลือเกิน

พอคิดได้อย่างงั้น ก็จัดการนัดแนะกันเลยครับ ตามแนวทาง กินเอง จ่ายเอง จะได้เขียนได้ดังใจตัวเองต้องการ 

วันนี้ขออนุญาติใช้ Logo ของ All IT Center มาแปะลายน้ำภาพแทนนะครับ คุณไม่ได้เข้ามาผิด Blog แน่นอนครับ ที่นี่ ยังเป็น Blog ของ thiticgi เหมือนเดิม


ถ้าเป็นที่กรุงเทพ ผมเชื่อว่า "กุ้งถัง" อาจจะถือเป็นชื่อที่ติดปากกันพอสมควรเลยทีเดียวครับ แต่ที่ภูเก็ตถือเป็นร้านน้องใหม่ที่กระแสแรงมาก คนแน่นร้านแทบทุกวัน เพราะถือเป็นร้านอาหารแนวใหม่ ที่คุณไม่ต้องนั่งพิถีพิถัน พิธีรีตอง แบบ ตักอาหารใส่จานรอง รวบส้อม หั่นด้วยมีด หรือแยกช้อนคาว ช้อนซุบให้วุ่นวาย


เมื่อคุณนั่งประจำโต๊ะ ทางร้าน จะปูด้วยกระดาษรอง แล้ว "เท" อาหารหลักลงบน "โต๊ะ" กันแบบนี้เลย !!! คุณอ่านไม่ผิดครับ "เทลงบนโต๊ะ" ไม่ต้องหาว่าจานอยู่ที่ไหน ช้อนส้อมอยู่ตรงไหนครับ ไม่มีครับ "เท" กันแบบให้เห็นๆ แบบนี้เลย อาหารจานหลักมีให้เลือกหลายแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งถัง ชุดรวมซีฟู๊ด หรือใครจะสั่งเดี่ยวๆ อย่างกุ้งแม่น้ำ หรือหอยแบบต่างๆ เขาก็มีให้เลือกครับ โดยหลังจากที่เลือกแล้ว ก็จะมีซอสให้เลือก 2 แบบ คือ Bang Bang เป็นซอสรสชาติต้นตำหรับของ "กุ้งถัง" และ ซอสกระเทียมพริกไทยดำ ที่เพิ่มความเข้มข้นของอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี เลือกระดับความเผ็ดของซอสได้ถึง 5 ระดับกันเลยทีเดียวครับ


ผมชอบทริกสุดท้าย ของการเทอาหารลงบนโต๊ะ ตรงหยดซอสครับ ซึ่งสำหรับผมมองว่า กลายเป็นจุดขายที่ทำเหมือนกับง่ายๆ แต่กลายเป็นศิลปะบนโต๊ะอาหารได้เป็นอย่างดี ถ้าดูเผินๆ เหมือนเขาเอาถุงใส่อาหารหลักมาเทลงบนโต๊ะ และก็เทซอสตามลงมาเฉยๆ แต่หากดูให้ดีๆ วิธีเทซอสตอนสุดท้าย จะเทเป็นจังหวะ เวียนเป็นวงกลม ซึ่งให้ภาพออกแนวอาหารตะวันตกได้อย่างสวยงามครับ


ข้อดีของที่ "กุ้งถัง ภูเก็ต" สำหรับผมมองว่า น่าจะอยู่ที่ความสดใหม่ของอาหารเป็นหลักครับ ทุกๆ เช้า จะมีสินค้าเข้ามาส่งที่ร้านกันทุกวัน อันนี้ที่ได้เห็นเพราะมีโอกาสได้แบกลังกุ้ง ตอนมาติดตั้งโปรแกรมด้วยตัวเองครับ และไม่ต้องคิดว่า จะค้างวัน เพราะจริงๆ ร้านเปิดตั้งแต่ 16:00 - 23:00 แต่ประมาณ 3 ทุ่ม อาหารก็จะหมดหลายรายการเลยเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะเขาสั่งมาน้อยนะครับ แต่ต้องยอมรับว่า ลูกค้าเข้ามามากจริงๆ ถ้าใครเป็นภูมิแพ้ อาจจะกังวลกับการเกิดสารกระตุ้นฮีสตามีนของอาหารทะเลที่ถูกทิ้งข้ามวันละก็ หมดความกังวลใจได้เลยครับ


วันนี้ผมและทีม เราสั่งชุดซีฟู๊ดรวมครับ และมากันตั้งแต่ 17:00 เลย เพื่อจะได้ชัวร์ว่า เราได้กินทุกรายการแน่ๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำ กุ้งขาว ปู หอยตลับ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ มากันครบเลยทีเดียว


และหลังจากระดมเร่งถ่ายรูป ท่ามกลาง น้ำลายที่ไหลรอ ของเหล่าบรรดาสมาชิก ก็ได้เวลารับประทานกันแล้วครับ ไม่ต้องถามจานรอง ไม่ต้องถามช้อนครับ มือจับ แกะ ปอก ตอก สับ กันตรงนั้นเลยทีเดียว อ่างล้างมือตั้งอยู่ใกล้ๆ จะรออะไรครับ


นอกจากชุดอาหารหลักแล้ว ยังมีอาหารเครื่องเคียงทั้งหลายด้วยครับ วันนี้เราสั่งมาทดลองกันไม่กี่รายการ แต่ก็ถือว่า ok เลยครับ อย่างแรกกับไส้กรอก ซึ่งจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จัดมาพอสุกหอมในสไตท์ไส้กรอก รมควัน


ถัดมากับเฟรนฟราย เสริฟมาในถัง พร้อมซอสมะเขือเทศครับ


และอันนี้ ถือเป็นตัวเด็ดอีกอย่างครับ กับคอร์นชีส ซึ่งจะเป็นข้าวโพด อบกับชีส ด้วยรูปแบบเฉพาะ ที่ไม่ได้ทำให้ชีสละลายทั้งหมด แต่จะพอยืดๆ หนึบ ตอบรับกับรสหวานของข้าวโพดที่เสริมกับกลิ่นหอมนมอ่อนๆ ของชีสที่ผสมกันได้อย่างลงตัว


และอีกรายการกับปีกไก่บน เสริฟมากับน้ำจิ้มไก่ครับ จริงๆ มีอีกรายการคือ ชีสบอล แต่อันนี้ถ่ายไม่ทัน กับเหล่าสมาชิก

เอาเป็นว่า ถ้ายังไม่ได้ลอง แนะนำให้ไปลองครับ หากอยากลองให้ครบเครื่องไม่แนะนำให้ไปติดค่ำมาก เพราะอาหารบางอย่าง อาจจะหมดได้ รวมถึง บางทีอาจจะต้องมีรอคิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไป

อร่อยจนต้องรอคิวแบบนี้ จะช้าทำไมครับ ลองเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก Facebook หรือ ไปลองดูกันเลย ตามแผนที่ข้างล่างครับ