วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

[Food Review] หรอยอย่างเมืองคอน ที่ บ้านสวนช่องเขารีสอร์ท นครศรีธรรมราช

วันนี้พาไปกินกันไกลถึงนครศรีธรรมราชครับ กับร้านอาหารเล็กๆ ในโรงแรม "บ้านสวนช่องเขารีสอร์ท" ซึ่งก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเลย กับมื้ออาหารในจังหวัดนี้ครับ ^_^


ที่นี่ จะออกห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชประมาณ 40 กิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับที่พักนั้น ถือว่า อยู่ระดับ "ใช้ได้" ครับ บรรยากาศร่มรื่น แต่การบริหารจัดการภายในห้องพัก ถือว่า ยังไม่ดีนัก เพราะในห้องค่อนข้างอับ และมีกลิ่นเชื้อราในบางจุด เนืื่องจากห้องพักอยู่ในป่า ทำให้มีความชื้นค่อนข้างมากครับ ตรงนี้ เลยถือเป็นจุดเสียพอสมควร

แต่วันนี้ เรามาแนะนำในส่วนอาหาร ซึ่งถือว่า ทำได้ดีมากครับ บรรยากาศร่มรื่น ตัดกับโต๊ะสีฟ้าอมเขียว อากาศเย็นสบาย แบบไม่ต้องวิ่งเข้าไปนั่งในห้องแอร์


สำหรับการจัดการอาหารถือว่าทำได้ดีมากครับ อาหารออกเร็วมาก รสชาติอาหารโดยรวมถือว่า อร่อยมากๆ เลยทีเดียว ไปดูกันว่า เราได้ลองเมนูอะไรกันบ้าง


เมนูแรกกับ "กระเพาะปลาผัดแห้ง" ครับ สำหรับจานนี้ ถือว่าอร่อยมาก หากเทียบรสชาติอาจจะติดไปคล้ายกับ ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว แต่หอม และนุ่มกว่ามาก


เสริมรสชาติ ด้วยซอส "จิ๊กโฉ่ว" ช่วยเพิ่มความหอม และรสได้ลงตัว


เมนูถัดมา เป็น "น้ำพริกกุ้งเสียบ" อันนี้ ผมไม่แน่ใจว่า เป็นต้นฉบับของนครศรีธรรมราชหรือว่า เขาทำแบบนี้ของเขากันแน่นะครับ เพราะ เอาจริงๆ สำหรับพวกเราแล้ว ต้องบอกว่า นี่มัน "น้ำพริกกะปิ โรยหน้ากุ้งเสียบ" ชัดๆ เลย
ถามว่า อร่อยไหม ผมต้องบอกว่า หากพูดในฐานะ "น้ำพริกกะปิ" ก็ถือว่า อร่อยครับ ยิ่งผักเคียงที่เสริฟมา ก็เข้ากันดี โดยเฉพาะยอดมะม่วงหิมพานต์ ที่อมฝาดเล็กน้อย แต่ก็เข้ากันดีกับน้ำพริกถ้วยนี้ครับ

แต่หากจะกิน "น้ำพริกกุ้งเสียบ" ในแบบฉบับคนภูเก็ตละก็ จานนี้ มันไม่ใช่ นะจ๊ะ ^_^


และแล้ว ก็มาถึง เมนูนี้ "รับประกันว่าเด็ด" กับ "แกงส้มปลากระพง" ครับ ถ้ามาถึงที่นี่แล้ว ไม่ได้สั่ง ถือว่าน่าเสียดายมาก รสชาติเด็ดขาดมากจริงๆ ถึงรส ถึงเครื่องแบบแกงใต้กันเลยทีเดียว เนื้อปลานุ่ม สด หวานมาก เสริมกับยอดมะพร้าวอ่อนกำลังดี แต่หากเป็นคนไม่ทานเผ็ด รีบบอกคนรับรายการอาหารกันรัวๆ เลยนะครับ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน !!


และเมนูสุดท้ายกับ "ปลาทรายทอดขมิ้น" อันนี้ ก็ถือว่าทำได้ดี ทอดปลาได้กรอบ หอมขมิ้นอ่อนๆ เสริฟพร้อมน้ำจิ้มสองแบบ ทั้งแบบซอสพริก และน้ำจิ้มแบบยำ ให้ได้เลือกทาน

เมนูนี้ ผมแนะนำให้ราดผสมกันดีที่สุดครับ เพราะว่า น้ำจิ้มแบบยำจะเปรี้ยวนำมากไปนิด ในขณะที่ปลาจะออกจืด ทำให้ไม่ค่อยเข้าถึงรสเท่าไหร่ แต่หากเอาซอสพริกผสมกับซอสยำ ราดแล้ว ก็ได้รสพอดีครับ


กว่าจะทานกันเสร็จก็ติดค่ำพอดี เลยได้ภาพมุมเล็กๆ ของร้านมา ซึ่งถ้าอยากผ่อนคลายพร้อมอาหารดีๆ ถือว่าเป็นอีกสถานที่ ที่แนะนำให้ลองกันครับ


ราคาอาหารเฉลี่ย จะตกอยู่ที่จานละ 100 - 150 บาท ตามมาตรฐานของร้านอาหารทั่วไปครับ ซึ่งก็รับได้หากเทียบกับวัตถุดิบ และรสชาติ

ถ้าผ่านไปตามทางหลวง 41 ของนครศรีธรรมราช ผมแนะนำว่า ลองหาอะไรทานกันดูนะครับ กล้ารับประกันว่า ร้านนี้ ไม่ผิดหวัง เรื่องรสชาติอาหารแน่นอนครับผม ^_^

วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558

Kaphu-Sino Coffee & Bar ร้านกาแฟ กับตอนที่ไม่ Review อาหาร

ร้านกาแฟเล็กๆ สบายๆ ร้านหนึ่งบนถนนดีบุกครับ
...
พูดกันตรงไปตรงมา ร้านนี้ เป็นร้านของเพื่อนผมครับ
...
และที่ยังไม่ Review อาหารว่า ที่นี่ อาหารดีแค่ไหน หรือมีอะไรเด่น เอาจริงๆ ก็มาจากเราไม่ได้เจอกันนานมาก หัวใจหลักของการมานั่งร้านกาแฟ เลยกลายเป็นการสนทนากันตามประสา เพื่อนเก่า เพื่อนแก่ กันไป

และสารภาพตามตรงว่า "ไม่ได้เอากล้องไป" .... เพราะ ตัดสินใจจะแวะแล้วก็เลี้ยวหัวรถตรงมากันเลยทีเดียว แต่หากใครสนใจอยากชมภาพสวยๆ แนะนำ Fan Page ภาพมืออาชีพ อย่าง Check in Chill Out ครับ เข้าไป Review มาแล้ว


ดังนั้น ภาพวันนี้ ว่าด้วยกล้องมือถือล้วนๆ เลยทีเดียว
...
คุณเพื่อนท่านนี้ เป็นอีกคนหนึ่งครับ ที่อยากบอกว่า ทำมันหลายธุรกิจ หลายกิจการเหลือเกินครับ ลองผิด ลองถูกมาเยอะมาก
...
หัวใจการสนทนาของเรา จึงเบนเข็มไปในเรื่องการ เรื่องงานกันเยอะทีเดียว ทำให้เราย้อนกลับมามองตัวเอง และสะท้อนไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ของคำว่า กิจการได้เยอะแยะมากมายครับ


มีคนหลายคน อยากจะผันตัวเองออกจากมนุษย์เงินเดือน ออกมาเป็น "เจ้าของกิจการ" อย่างเต็มตัว เพราะมองว่า ทำไมฉันต้องกินเงินเดือนไปวันๆ

ยิ่งมองเห็นคนอื่นทำแล้วประสบความสำเร็จเยอะแยะมากมาย ยิ่งมีความรู้สึกว่า เรื่องแบบนี้ "กู" ก็ทำได้ จนลืมคิดไปว่า ... กว่าจะได้ภาพคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ไอ้ที่เห็นยิ้มๆ กันอยู่นี่ ร้องไห้น้ำตาตกกันมามากขนาดไหน ไม่ค่อยจะมีใครรู้หรอกครับ

เพราะเวลาเป็น "เจ้าของกิจการ" ถ้าคุณเชี่ยวชาญเฉพาะทาง คุณเป็น "ลูกน้องมืออาชีพ" ครับ แต่เมื่อไหร่ที่ก้าวมาเป็น "เจ้าของกิจการ" คุณไม่ต้องรู้ลึกทุกอย่าง แต่ต้องรู้หลายอย่างแทน

และที่สำคัญกว่า คือ มี "ตา" และ "แนวคิด" ที่ไกลกว่าของที่อยู่ในมือ และต้องมี "หัวใจ" ที่แข็งแรง จึงจะสำเร็จครับ


องค์ประกอบของธุรกิจที่จะอยู่กับเราตลอดไป จึงมาจากองค์ประกอบหลักสองประการคือ สร้างรายได้ให้เรา และสร้างความสุข ให้เรา

ประโยคหนึ่งที่ผมถามคุณเพื่อนว่า "คิดยังไง มาทำร้านกาแฟที่นี่"
เขาบอกว่า "เอาจริงๆ เขาต้องการแค่ให้มันเลี้ยงตัวของมันเองได้ ตรงนี้ ไม่ต้องสร้างกำไรอะไรเยอะแยะก็ได้ แต่อย่างน้อยๆ ให้มีจุดที่ได้นั่งพักบ้าง"

"แต่ปลายทาง ของจุดหมายจริงๆ มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ตัวที่จะเป็นปลายทางของชีวิตจริงๆ มันอยู่ที่กิจการอื่น ที่นี่ จะเป็นตัวที่เอาไว้สร้างให้คนพักผ่อน เราเอง เหนื่อยมา เราก็ได้พักผ่อน"


สำหรับกิจการที่เพื่อความผ่อนคลายแบบนี้ แนวคิดแบบนี้ ถือว่ากลายเป็นข้อดีไปโดยอัตโนมัติ เพราะมันกลายเป็นว่า "ขาดทุนช่างแม่ง แต่เข้ามาต้องมีความสุข"

ผมนึกไปถึงคุณป้าทิพย์ รีสอร์ท บ้าน ณ บางช้าง ที่แกแซวกับผม "ที่นี่นะ ฉิบหายไม่ว่า ขอให้ได้หน้าไว้ก่อน" ... ซึ่งก็กลายเป็นจุดขายแบบฮาๆ ในสไตล์ที่ใครก็เลียนแบบแกไม่ได้

เพราะแนวคิดแบบนี้ มันจะทำให้ลูกค้าได้ความรู้สึก "พักผ่อน" มากกว่า การเน้นทำกำไร หรือหาจุดขาย จนลืมจุดประสงค์ของกิจการไป

... ร้านกาแฟ ที่ทำให้คุณเหมือนนั่งจิบกาแฟในบ้าน ...


Kaphu-Sino Coffee & Bar อาจเป็นร้านกาแฟที่คนหันมามองแล้วชอบในรูปแบบของร้าน หรือจะเป็นอาหารก็แล้วแต่

แต่สำหรับผมแล้ว Kaphu-Sino Coffee & Bar มันเป็นสถานที่ ที่ทำให้เราเหมือนนั่งกินกาแฟกับเพื่อนในบ้านหลังเล็กๆ

คุณไม่ต้องกังวลอะไร ไม่ต้องห่วงเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติ อยากจะนั่ง อยากจะพิงหลัง นั่งฟังเพลงเบาๆ ปล่อยความคิดไปตามแรงลมเบาๆ ที่เป่าลงมาจากเพดาน

คำถามคือ ถ้าจะนั่งจิบกาแฟ มีอะไรมากกว่านี้ไหม ที่คุณต้องการ
ลองสัมผัสของจริงกันที่ร้านตามแผนที่ข้างล่าง หรือไปชม Fan Page ของเขากันเลยครับ