วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[Food Review] บุกร้าน "ใบเมี่ยง" นครปฐม

จริงๆ แล้ว ผมสารภาพตามตรงว่า แทบไม่อยากเชื่อเลยว่า นครปฐม มีร้านอาหารดีๆ แบบที่ควรไปลองเยอะมากขนาดนี้

นอกจากร้าน Good Cafe' ที่ได้ไปลิ้มลองมาแล้ว ยังมีร้านอีกหลายแห่ง ที่เจ้าถิ่นเมืองนครปฐมบอกกับเราว่า เสียดาย ที่เวลามันน้อยไป

วันนี้ เราเลือกมากันที่ร้าน "ใบเมี่ยง" ครับ เป็นร้านอาหารเวียดนาม ที่แทรกอาหารฝั่งตะวันตกเอาไว้เพียบเหมือนกัน ^_^


ถึงจะเป็นร้านอาหารเวียดนาม แต่น้องแนะนำว่า อาหารที่ควรลองมาที่สุดคือ "ผักโขมอบชีส" ครับ มีรึที่รอช้า เราก็รับมาเลย 1 เมนูครับ


แต่ตัวแรก ก็พลาดไปหน่อยครับ เพราะรายการที่ได้ เป็น ผักโขมไข่ตุ๋นอบชีสแทน ซึ่งทางร้านยินดีที่จะเปลี่ยนให้ครับ แต่เราก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องเอาเปลี่ยน เอามาเพิ่มครับ ^_^ จะได้ชิมหลายๆ อย่าง

สำหรับ "ผักโขมไข่ตุ๋นอบชีส" ยังให้รสชาติทั่วไปนิดครับ คือ อร่อยตามแบบทั่วไป ข้อเสียนิดคือ การผสมของเนื้อไข่ที่แยกไข่ขาว กับไข่แดงชัดไปหน่อยในบางส่วน ทำให้รสชาติ เข้มบ้าง จางบ้าง


เมนูถัดมา ถ้ามาร้านเวียดนาม ก็ต้องสั่งครับ คือ เมนู "แหนมเนือง" แต่ตัวเนื้อแหนมเนือง อันนี้ มันจะไม่ได้รสแบบต้นฉบับเท่าไหร่ครับ ออกติดไปแนวของหมูย่างมากกว่า ที่จะเป็นแหนมย่าง จานนี้ ให้แค่พอใช้ครับ


ส่วนเมนูถัดมา ถือว่า เป็นเมนูแนะนำครับ ปลาต้มแซ่บ รสจัดจ้าน หอมถึงเครื่องมากครับ


เนื้อปลานิ่มพอใช้ครับ แต่แหม ... ก็มีเรื่องให้ติงนิดเรื่องของเนื้อปลานี่ละครับ เพราะสุกไม่ทั่วถึงซะทีเดียว ทำให้ภายนอกนิ่ม แต่ส่วนบริเวณก้างปลายังไม่สุกทำให้เนื้อแข็งหนืดครับ


และเมนูแนะนำของจริง ก็มาเสริฟถึงโต๊ะซักที กับ "ผักโขมอบชีส" ซึ่งอันนี้ การันตี ว่าอร่อยสุดๆ จริงๆ เพราะเนื้อผักโขม ผสมเข้ากับชีสอย่างดี เนื้อผักอบมาได้พอดี ทำให้เนื้อนิ่ม หอมชีสและกลิ่นเบคอนที่หั่นบางผสมอยู่ เป็นเมนูที่หาคำติติงไม่ได้เลยครับ


จบท้ายด้วยภาพแหนมเนืองที่ได้รับเกียรติจากน้องเจ้าถิ่นจัดวางมาให้ถ่ายโดยเฉพาะ แต่เสียดายที่ภาพนี้เบลอไปหน่อย T_T

สรุป อาหารที่แนะนำของที่นี่ เป็น "ผักโขมอบชีส" ครับ ถือว่าล้ำเลิศมาก หากมีโอกาสน่าจะแวะเวียนไปชิมดูครับ แผนที่ ตามด้านล่างเลยครับ ^_^


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[Food Review] จิ๋วแต่เจ๋ง!! ละมุนลิ้นที่ Good Cafe'

พูดตามตรง .. หากไม่ใช่ คน "นครปฐม" หรือ คนที่ไม่รู้จักที่นี่ อาจจะผ่านร้านนี้ไปได้แบบไม่หันมามอง ^_^

ขึ้นหัวไว้แรงๆ ด้วยความรู้สึก จริงๆ ว่า ร้านเล็กแบบนี้ มีของที่สุดล้ำขนาดนี้ได้ยังไงครับ ระหว่างการทำงาน น้องเจ้าถิ่นเมืองนครปฐม บอกกับเราว่า มีน้ำปั่นร้านหนึ่ง อร่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำปั่นข้าวเหนียว ทุเรียน ล้ำเลิศมาก ^_^

คุณจินตนาการไว้แบบไหนครับ หากได้ยินประโยคแบบนี้ คุณอาจจะคิดถึงน้ำปั่นผลไม้ ที่ขายกันทั่วไป อาจจะประดับนั่นนิด นี่หน่อย เพื่อเพิ่มราคา แต่ของกระซิบดังๆ เลยครับว่า ที่นี่ ผมขอเว้นความคิดแบบนี้ไว้เลยครับ


อันดับแรกเมื่อเข้าไปถึง ที่ผมจี๊ดถึงหัวใจ คงไม่พ้นกับตู้เค๊กแบบต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายครับ จัดชิ้นแรกด้วย เลมอนชีสเค๊ก ซึ่งการันตีความเด็ดดวงไว้ตรงนี้เลยครับ เพราะ หากคุณเคยทานชีสเค๊ก สิ่งที่คุณรู้คือ มันจะหอมอร่อยในคำแรกๆ แต่มันจะเริ่มเลี่ยนเมื่อผ่านไปช้อนที่ 3 หรือ 4

ความลงตัวของเลมอนชีสเค๊กที่นี่ มันอยู่ที่รสเปรี้ยวอมหวานแบบจางๆ ของครีมเลมอนที่ราดอยู่บนชีสเค๊กครับ และตัดด้วยฐานที่เป็นเค๊กแบบช๊อกโกแลตที่หวานปนขมเล็กน้อยตามแบบของ ดาร์กช๊อกโกแลตครับ แต่ก็ช่วยเสริมความหอมละมุนให้กับเนื้อชีส แบบที่บรรยายรสชาติที่มันวิ่งไปทั่วปากไม่ได้เลย


ตามมาด้วย ทาร์ตผลไม้ครับ อันนี้ จริงๆถ้าขอติงนิดก็ตรงที่เอาวิปครีมมาปิดหน้าของ ทาร์ต นี่ละครับ (ชมหมด เดี๋ยวจะไม่เรียกว่า Review) ที่ต้องติง เพราะทำให้ความเด่นของตัวทาร์ตลดลง รวมถึงการตัก ผ่านวิปครีมก่อนที่จะถึงเนื้อทาร์ต ทำให้มีเนื้อวิปครีมมากเกินไป เมื่อเทียบกับเนื้อทาร์ต จริงๆ น่าจะวางข้างๆ แบบเลมอนชีสเค๊กจะดีกว่าครับ

แต่ถ้าจะให้ว่าจริงๆ วิปครีมของที่นี่ ก็ไม่ถือว่าแย่ครับ เพราะเข้าใจว่า น่าจะมีการแต่งรส หรือเลือกวิปครีมมาให้เข้ากับเมนูต่างๆ ตรงที่ มันไม่ได้ จีดๆ เลี่ยนๆ อย่างที่เราเจอตามที่เขาใส่ในกาแฟ หรือ ไอศครีม แต่จะมีรสหวานนำ ซ่อนเค็ม นิดหน่อย ช่วยให้กระตุ้นความอยากกินได้ดีครับ

ประมาณว่า หากคุณกินทุกอย่างหมดแล้ว ยังนั่งกิน วิปครีม เล่นได้ด้วย ^_^


และมาถึงเมนู น้ำปั่น สุดเริ่ด.ด.ด..... บลูเบอรี่โยเกิร์ต ซึ่งแทบจะร้องตะโกนลั่นร้านด้วยความฟิน.น.... (แต่จะเสียภาพพจน์) เพราะ จะเปรี้ยวนำ หวานตาม และตบท้ายด้วยกลิ่นที่หอม เนื้อที่นุ่มของโยเกิร์ต ในแบบที่ ไม่เคยทานมาก่อน


ตามต่อด้วยเมนูถัดมากับ ฮันนี่โทส แบบแปะผลไม้มารอบจาน แบบนี้ครับ อันนี้ อธิบายไม่ถูกเพราะคุณภรรยา และคุณน้องเจ้าถิ่น พาไปจัดการทันทีหลังถ่ายภาพนี้เสร็จ 555


และนี่เป็นเมนูต้นเหตุ ที่ต้องไปนั่งทานครับ ข้าวเหนียวมะม่วงในแบบน้ำปั่น ที่ผมอยากบอกว่า แก้วเดียว อิ่มแทนข้าวเย็นได้เลย แก้วนี้ มีเนื้อทุเรียนปั่น และรสชาติของน้ำกะทิเล็กน้อยผสมอยู่ ปิดหน้าด้วยข้าวเหนียว และเนื้อทุเรียนที่มาแปะให้กินกันจุใจ ประมาณว่า หากใครชอบทุเรียน จะเป็นเมนูโปรดได้แบบง่ายๆ เลย


ยังมีเมนูอีกหลายรายการที่น่าลองเลยครับ เสียดายที่เรามารู้จักเอาวันเสร็จสิ้นภาระกิจพอดี เลยคงต้องรอไปนครปฐมงวดหน้า คงไม่พลาดที่จะไปชิมให้ได้อีกซักครั้งครับ

ใครผ่านไปทางนั้น หรืออยู่ในละแวกนั้น อย่าพลาดครับ พิกัดตามแผนที่เลย ^_^


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[พาเที่ยว] สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา .. แดนสวรรค์คนรักตุ๊กตา

หลังจากเสร็จภาระกิจที่ราชบุรี เราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐมเพื่อลุยงาน Project ถัดไปครับ แต่ระหว่างทาง ราชบุรี สู่ นครปฐม มีถนนสายเล็กๆ ระหว่างทาง ที่มุ่งหน้าสู่ "สุนทรีย์แลนด์ แดนตุ๊กตา" ครับ


ที่นี่ เป็นศูนย์รวมจำหน่ายตุ๊กตา และมีตุ๊กตา จัดแสดงโชว์ ให้ได้ชมด้วยครับ โดยคุณสามารถเลือกจะเข้าซื้อตุ๊กตาอย่างเดียวก็ได้ครับ ราคาตุ๊กตาไม่แพงเลยครับ แต่ทั้งนี้ ต้องวงเล็บว่า ต้องเป็นตุ๊กตาที่ไม่มีลิขสิทธิ์ อย่างเช่น คุ๊กกี้รัน โดเรมอน นะครับ พวกนี้ ราคาจะแพงหน่อย


ราคาเข้าชมตามป้ายเลยครับ ผู้ใหญ่ 80 บาท และเด็ก 40 บาท


ช่วงนี้ ที่ "สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา" จัดทางเข้าในรูปแบบฟุตบอลโลกครับ ให้เข้ากับบรรยากาศ


เมื่อเดินเข้ามาตรงทางเข้า ที่นี่ จะมีชุดตุ๊กตาให้สวมฟรีด้วยครับ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการเข้าชม ตอนทางเข้า อากาศจะร้อนซักหน่อยครับ อาจจะทำให้คุณหวั่นใจที่จะหยับชุดพอสมควร แต่เดินเข้าไปข้างในจะมีเครื่องปรับอากาศครับ เย็นสบายตลาดการเดิน


คุณภรรยาผม จัดหมวกไป 1 ใบ (แต่ชุดไม่ไหว เพราะไปถึงเกือบเที่ยง ร้อนเกินกว่าจะทำใจใส่)


ตรงนี้ เป็นส่วนทางเข้าชมภายในครับ



ด้านในมีตุ๊กตาจัดแสดงไว้จำนวนมากครับ และจัดมุมต่างๆ ไว้สวยมาก คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปครับ


"ฉันเหงา ... ฉันถูกทิ้งไว้ในนี้คนเดียว ... "


ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่า ตุ๊กตาทุกๆ ตัว เป็นตุ๊กตาหมีครับ ... เหล่าหมีนางฟ้า


ตุ๊กตาหมี กลุ่มอาเซียนครับ มีจัดแสดงเป็นแบบ นานาชาติ ไว้ด้วย



ตรงทางออก มี "เขาวงกต" ให้เล่นด้วยครับ สนุกดีเหมือนกัน ตรงที่หากคุณเข้าไปผิดทาง ก็จะออกไปข้างนอกไม่ได้ ต้องเดิน วนไป วนมา ซึ่งออกแบบไว้ได้ดีครับ ไม่ได้ง่าย อย่างที่คิดเลย หากคุณเดินไปผิดทาง ก็จะมีตุ๊กตา แม่นาค รอต้อนรับด้วย ^_^


และต้อนรับทางออกด้วย สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7 ครับ


โดยภาพรวม หากมีโอกาส ถือว่า แนะนำให้ลองไปเที่ยวครับ
พร้อมแล้ว ก็ไปตามแผนที่ด้านล่างกันเลยครับ ^_^


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[พาเที่ยว] "เถ้าฮงไถ่" อาณาจักรศิลปิน แห่งเมืองราชบุรี

หากได้มีโอกาสมา ราชบุรี แล้ว หากมีอารมณ์ศิลปินอยู่บ้าง "เถ้าฮงไถ่" ถือว่าเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดครับ

ที่ราชบุรี ถือว่าเป็นเมืองน่าอยู่อีกแห่งหนึ่งตั้งแต่เราตะลอนกันไปตามที่ต่างๆ พอสมควรครับ ถึงแม้จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่วุ่นวาย อยู่กันแบบสบายๆ แนวชาวบ้านครับ อาหารถูก ค่าครองชีพต่ำ (เพราะไม่รู้จะจ่ายเงินไปกับอะไร) ซึ่งหากไม่รวม ความไม่มีน้ำใจทุกครั้งที่ผ่านแยก และ รถไม่มีป้ายทะเบียน จำนวนมาก และยังมีเรื่องคนที่ไม่ค่อยยิ้มแล้ว!!! ก็ถือว่าน่าอยู่ครับ (เริ่มปากเสีย ... กลับๆ)


"เถ้าฮงไถ่" เป็นแหล่งจำหน่าย เซรามิค ในแนวงานศิลปะครับ ไม่ได้ไปทางผลิตแบบงานจำนวนมากชิ้น อย่าง ถ้วย จาน แจกันสำเร็จรูป ทุกชิ้นถูกสร้างขึ้นมาแบบ ชิ้นเดี่ยวๆ ไม่ได้ทำผ่านแม่แบบครับ


ที่นี่ ไม่มีค่าเข้าชม ครับ สามารถจอดรถ แล้วเข้าไปพบกับความเวิ้งว้าง อันไกลพ้น ได้เลย (เพราะเข้าไปแล้ว เราก็ไม่แน่ใจว่า ไปเดินถ่ายนู่น นี่ แล้วจะโดนด่าไหม)


เมื่อเข้ามาใน "เถ้าฮงไถ่" แล้ว คุณจะเจอกับสาวคนนี้ครับ ที่เห็นในภาพ อยากบอกว่า เธอน่าจะสูงกว่า 3 เมตร!! ประมาณว่า ตอนถ่าย ออกมายืนถ่ายภาพตรงทางเข้าเลย ไม่งั้นเก็บไม่หมด

แต่หากใครสนใจละก็ จากคำบอกเล่า ของสาวร้านกาแฟ เธอมีเจ้าของแล้วนะครับ เป็นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ซื้อไปเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีที่ตั้ง เลยฝากวางไว้ก่อน!! สาวคนนี้ เคยไปออกงานศิลปะที่ญี่ปุ่นมาแล้วด้วยนะครับ (นึกถึงตอนไปไม่ออกเลย เธออาจถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ หรือเธอนั่งแบบนี้ ไปท่ามกลางเรือขนาดใหญ่ อ่า .... ไม่คิดดีกว่า)


ในสวนก็จะมีสุนัขแบบนี้ตั้งอยู่เป็นจุดๆ ความสูงประมาณ 2 เมตรเศษ ครับ ราคาไม่แพงเลยครับ แค่ ห้าแสน เท่านั้นเอง!!! (อา .... มันเป็นศิลปะ)
ตัวนี้ ทำขึ้นจากไฟเบอร์ครับ น้องเขาบอกว่า เซรามิก ไม่ได้หรอกพี่ จะเอาเตาที่ไหนไปเผา ... เออนะ


ตามผนังกำแพง จะมีเซรามิคแผ่นสีสดใส แบบนี้ ปะติดอยู่ทั่วครับ สวยดีมากครับ


มีมุมกาแฟ ให้ได้นั่งชื่นชมงานด้วย ^_^






ตรงนี้ เป็นร้านกาแฟครับ อยากได้แผ่นเซรามิคแบบนี้ ไปแปะที่บ้านบ้าง น่าจะงาม ^_^


เจอเพื่อนด้วย อิ อิ ตัวนี้น่าจะเป็นงานปูนปั้นครับ


แวะเข้าไปลึกนิดหนึ่ง ดูเฮียเขา ลงสี เซรามิค ก่อนเข้าเตาเผา ลงสีได้แจ่มมาก



ในร้านกาแฟเอง ก็มีผลงานเซรามิค ตั้งไว้ด้วยครับ ประมาณว่า หากลูกค้าชอบชิ้นไหน ก็ซื้อได้เลยครับ


ก็อยากจะซื้อติดกลับบ้านไปบ้างเหมือนกันครับ ถามราคาเจ้าตัวเล็กนี่ กะว่าไปตั้งที่โต๊ะทำงานหน่อย น้องเขาบอก ราคา แค่ 6,000 เท่านั้นคะ ...... แหม ถ้าไม่ติดว่าภรรยาให้วันละ 20 นี่ ควักเลยนะ ส่วนตัวใหญ่ 9,000 จ๊ะ


คุณภรรยา เดินๆ ดู เห็นแก้วแปลกๆ ด้วย เลยหยิบมาดู แก้วนี้ น้องเขาบอกว่า เป็น "แก้วนิ้ว" คือใช้นิ้วจับแบบนี้ไว้กินน้ำชา เป็นไอเดียที่ดีนะครับ เพราะไม่ร้อนมือ สนนราคาแค่ 100 บาทครับ


คือ หากเราพูดว่า เลือกซื้อมาเพื่อการบริโภคทั่วไป ผมว่า แพงครับ แต่หากมองอีกมุมคือ มันคืองานที่สร้างสรรค์ เพื่อความพึงพอใจ มันเป็นเรื่องปกติครับ

ที่นี่ เป็นแนวอิสระมาก คือคุณเดินๆ ดูไปทั่วๆ ได้เลย ชอบชิ้นไหน ก็เรียกพนักงานถามราคาครับ และข้อดีคือ ไม่มีคนมาตามตื้อให้คุณซื้อ คุณเดินเข้ามาชม และเดินไปเฉยๆ ก็ได้ครับ

ส่วนพวกเรา ทำได้แค่อุดหนุนกาแฟ และนั่งคุยกับน้องพนักงานแค่นั้นครับ .... กำลังทรัพย์ไม่พอ T_T
แต่แนะนำว่า น่าแวะเที่ยวครับ แผนที่ตามภาพครับ


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

เสริมนิดหนึ่ง หลังจากที่เราออกจาก "เถ้าฮงไถ่" แล้ว ก็มาต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์ราชบุรี ครับ จะเห็นว่า มาที่นี่แล้ว เราก็ยังเจอเจ้าหมาห้าแสน เหมือนกัน อาคารหลังนี้ เดิม เป็นศาลากลางของราชบุรีครับ


ที่นี่ไม่มีค่าเข้าชม และไม่มีคนเข้ามาชมครับ!!! อันนี้จริงๆ เพราะตั้งแต่เราเดินเข้าไป จนเดินกลับออกมา ไม่มีคนเข้ามาเลย


บรรยากาศที่นี่ ให้ความรู้สึกดีมากครับ นึกถึงสมัยเรียนประถม มัธยม นู่นเลย อาคารไม้ พื้นขัดมัน ... แต่ไม่ควรถามนะครับ ว่ากี่ปีมาแล้ว เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องเศร้าไป


หลังจากที่เข้าชมแล้ว เราก็ใส่เงินในกล่องบริจาคไว้ครับ เพราะถึงแม้ว่า ไม่มีค่าเข้าชม แต่สิ่งเหล่านี้ ก็น่าจะเก็บรักษาไว้ ให้รุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษา ถึงตัวเงินอาจจะไม่มาก แต่ก็อยากได้เป็นส่วนร่วมครับ ^_^

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[พาเที่ยว] ตะลุย "สวนผึ้ง" ตอนที่ 4 - Chado Gallery

จะว่าไปสวนผึ้งมีเรื่องให้เขียนถึง 4 ตอนเลย ไม่ธรรมดาแหะ .. แต่เชื่อว่า ถ้าแวะทุกที่ ไปทุกแห่ง อาจจะมีเรื่องให้เขียนอีกยาวเลยก็ได้ครับ

แต่ว่ากันตามจริง ทั้ง 4 ตอนที่เขียนมาจนถึงตอนนี้ ใช้เวลาตระเวนรถตั้งแต่ตอน 08:00 และกลับเข้าที่พักในตัวเมืองราชบุรีตอน 14:00 เท่านั้นเองครับ (เก็บภาพด้วยความเร็วสูง!!) ใช้เวลาเที่ยวแค่ 6 ชั่วโมง

วันนี้ส่งท้าย "สวนผึ้ง" กับ Chado Gallery ครับ


สังเกตได้ทางเข้า ยังฉาบปูนก่อสร้างกันอยู่เลย และมีของไม่เสร็จสมบูรณ์เยอะแยะ แม้แต่บัตรเข้าชม ก็ยังอยู่ในรูปนี้ครับ ... แต่ค่าบัตรผ่านนี่สมบูรณ์ครับ เก็บ 50 บาทเต็ม !!


ที่นี่เน้นงานก่อปูนเป็นรูปต่างๆ และจัดเป็นมุมให้ถ่ายภาพครับ เอาเป็นว่า ไม่รู้ว่าจะบรรยายอะไรมากกับที่นี่ครับ ชมรูปเลยละกันครับผม








อันนี้จัดภาพมุมกว้างให้ดูซักนิดครับ จะเห็นว่า พื้นที่ไม่ถึงกับกว้างนักครับ ตำแหน่งวางของต่างๆ จะอยู่เป็นมุมต่างๆ อย่างในภาพครับ สีสัน แนวหวานแหวว




ใช้เวลาในการแวะชมไม่ถึง 30 นาที สำหรับที่นี่ครับ การันตีว่าเดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ไม่ได้วิ่งรอบแต่อย่างใด แต่โดยเนื้อที่และจุดถ่ายภาพ ไม่ถึงกับเยอะนัก 2 คน 100 นี่ ก็ถือว่า ติดแพงไปนิดครับ ช่วงที่ยังไม่เรียบร้อยแบบนี้ น่าจะจัดราคาต่ำกว่านี้ซักนิดน่าจะดี และค่อยไปเพิ่มหลังจากที่ทุกอย่างลงตัวแล้วจะน่าแนะนำกว่านี้ครับ

สำหรับตำแหน่ง GPS ที่นี่ลืม Plot ครับ T_T รู้แต่ว่า หากคุณขับรถไปสวนผึ้ง ก็จะเห็นชัดเจนอยู่ริมทางเลยครับ ^_^